เนื้อหาของ Bitcatcha สนับสนุนโดยผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการเป็นพันธมิตร เรียนรู้เพิ่มเติม

รีวิว Kinsta: 10 ข้อดีและ 3 ข้อเสียของ Kinsta WordPress Host ที่เราพบ!

tl;dr

Kinsta เต็มไปด้วยเครื่องมือบริหารจัดการ WordPress ที่โดนใจเยอะแยะมากมายและมอบประสบการณ์การใช้งานอันราบรื่นอย่างที่สุดให้กับผู้ใช้บริการ ความเร็วแรงและความสามารถในการรองรับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วก็อยู่ในระดับเดียวกับที่คุณจะได้จากบรรดาบริการเว็บโฮสติ้งบนระบบคลาวด์ แถมทีมงานที่คอยช่วยเหลือดูแลลูกค้าก็ล้วนแต่เป็นนักพัฒนา WordPress ฝีมือดี พูดได้เลยว่าคุณมีโซลูชันเว็บโฮส ติ้งระดับพรีเมี่ยมอยู่ในมือแม้ว่าราคาจะสูงตามระดับพรีเมี่ยมไปหน่อยก็ตาม เรียนรู้เพิ่มเติม

วันนี้ เราจะมาดูบริการเว็บโฮสติ้งสำหรับ WordPress ที่ช่วยดูแลงานด้านเทคนิคแทนคุณทุกอย่างและเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Kinsta

Kinsta เปิดตัวในปี 2013 โดยเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ WordPress ที่ไม่ประทับใจกับโซลูชันเว็บโฮสติ้ง WordPress ในตลาด และปัจจุบันค่ายนี้เป็นหนึ่งในโฮสต์ WordPress ที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรปและอเมริกา

สารบัญ


ข้อเสียของ Kinsta
  1. เร็วแรงสุด ๆ
  2. โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์เพื่อความเร็วแรงโดยเฉพาะ
  1. ซอฟต์แวร์ที่ช่วยติดปีกให้กับคุณ
  2. Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
  3. การใช้งานที่ (เกือบจะ) ไม่ต้องทำอะไรเองเลย
  4. การสนับสนุนทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
  5. การติดตั้งและการย้ายเว็บไซต์ที่แสนง่าย
  6. ใช้งานได้อย่างสบายใจ
  7. รองรับการเข้าชมเว็บที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  8. เสริมประสิทธิภาพสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ข้อเสียของ Kinsta
  1. ราคาสูง
  2. ไม่มีการโฮสต์อีเมล
  3. ขาดการสนับสนุนทางโทรศัพท์

แพ็กเกจและฟีเจอร์ของ Kinsta
Kinsta รับมือกับการแข่งขันได้อย่างไร
  1. Kinsta เทียบกับ WP Engine (ในฐานะโฮสต์ WordPress ที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคเอง)
  2. Kinsta เทียบกับ SiteGround (ในฐานะเว็บโฮสต์ที่รวดเร็ว)

บทสรุป

ความได้เปรียบของ Kinsta อยู่ที่ว่า บริการเว็บโฮสติ้งของค่ายนี้ใช้เครือข่ายระดับพรีเมี่ยมของ Google Cloud ซึ่งเป็นการนำเสนอคุณค่าการให้บริการที่ยั่วยวนใจจนเราไม่สามารถอดใจไหวและต้องขอทดสอบ Kinsta ดูสักหน่อย

Kinsta รับประกันความเร็วแรงราวสายฟ้าแล่บ โครงสร้างพื้นฐานแบบล้ำยุคและการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ท่ามกลางประโยชน์ที่โดนใจอีกมากมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ Kinsta ยังได้ปรับโฉมแบรนด์ตัวเองเสียใหม่ให้ดูทันสมัยน่าใช้และใช้งานง่ายมากขึ้น

แล้วค่ายนี้ทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า เราไปหาคำตอบกัน

(กลับไปที่ด้านบน)

10 เหตุผลที่ Kinsta เป็นโซลูชั่นเว็บโฮสติ้งที่โดนใจอย่างจัง

1. เร็วแรงสุด ๆ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ความเร็วคือทุกสิ่งสำหรับเว็บไซต์ต่าง ๆ

เวลาในการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้นไม่เพียงแต่สัมพันธ์กับโอกาสที่จะได้ลูกค้ามากขึ้น ระยะเวลาเฉลี่ยในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่นานขึ้น และโอกาสที่ผู้เชี่ยมจะออกจากเว็บน้อยลงหลังจากเยี่ยมชมเพียงหน้าแรก แต่ยังส่งผลต่อการดันหน้าเว็บให้ขึ้นมาอยู่อันดับแรก ๆ ของการแสดงผลด้วยเครื่องมือค้นหาหรือ SEO ได้ดีขึ้นมากอีกด้วย จะว่าไปเราได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องความเร็วไว้มากมายเลยทีเดียว ลองหาอ่านดูได้ไม่ยาก

แล้ว Kinsta มีผลงานด้านความเร็วแรงเป็นยังไงบ้างล่ะ เราเองก็อยากหาคำตอบ เราจึงติดตั้งเว็บไซต์ทดสอบมาตรฐานของเราบนเซิร์ฟเวอร์ของ Kinsta และเรียกใช้ผ่านเครื่องมือตรวจสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของเรา:

ผลลัพธ์เป็นอย่างไร มาดุกัน

US (W)US (E)ลอนดอนสิงคโปร์เซาเปาลู
130 ms
95 ms
10 ms
287 ms
203 ms
บังคาลอร์ซิดนีย์ญี่ปุ่นแคนาดาเยอรมนี
487 ms
266 ms
221 ms
83 ms
13 ms

ความเร็วเฉลี่ย: 179.5 ms – ดูผลลัพธ์ทั้งหมด

หมายเหตุ

เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดสอบ เราได้ติดตั้งเว็บไซต์ทดสอบแบบง่ายที่สร้างจาก WordPress ไว้ลองใช้งาน เราตัดสินใจโฮสต์จากศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในลอนดอน ดูเว็บไซต์ที่นี่.

เราปลื้มมากที่เซิร์ฟเวอร์ซึ่งเราใช้โฮสต์ได้คะแนน A+!

เวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ตามคำแนะนำของ Google คือต่ำกว่า 200 มิลลิวินาที เนื่องจากการทำงานที่ช้ากว่านี้อาจจะก่อให้เกิดความล่าช้าจนผู้ใช้รู้สึกได้ เซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนและสหรัฐอเมริกาทำเวลาได้ดีมากโดยเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ว่านี้ ระยะเวลาตอบสนองที่สั้นที่สุดคือ 10 มิลลิวินาทีซึ่งเร็วราวสายฟ้าแล่บเลยทีเดียว (สัญญาณปิงจากลอนดอน)

อย่างไรก็ตาม สัญญาณปิงจากภูมิภาคที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างบังคาลอร์ช้ากว่ามากซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาตอบสนองโดยเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 179.5 มิลลิวินาทีซึ่งสูงกว่า 10 มิลลิวินาทีหลายเท่าตัวมาก แต่ถึงยังไง ก็ยังน่าประทับใจมากอยู่ดี

แล้วเวลาโหลดหน้าเว็บล่ะเป็นยังไง

Web Page Performance for Kinsta
การทดสอบความเร็ว Webpagetest.org – ดูผลลัพธ์ฉบับเต็ม

เอาล่ะ โปรดจำไว้ว่าหน้าเพจทดสอบของเรายังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายการส่งเนื้อหาหรือ CDN เทคโนโลยีด้านการทำแคชชิ่งหรือการเสริมประสิทธิภาพอื่น ๆ ที่ผู้ใช้ Kinsta น่าจะได้ใช้ประโยชน์เพื่อลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการเสริมประสิทธิภาพใด ๆ แต่เราสังเกตเห็นว่าดัชนีวัดความเร็วที่สำคัญทั้งหมดอยู่ในระดับ A- ทุกอย่างผ่านฉลุย ความเร็วสุดท้ายในการโหลดที่ 1.097 วินาทีถือว่าค่อนข้างเยี่ยมเลยทีเดียว

กล่าวโดยรวมแล้ว Kinsta อาจจะไม่ใช่บริการเว็บโฮสติ้งที่เร็วที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบมา แต่แน่นอนว่าจัดอยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการระดับบนสุดที่ตอบโจทย์ด้านความเร็ว

เคล็ดลับ

เมื่อใช้ร่วมกับการเสริมประสิทธิภาพที่เหมาะสมจะสามารถลดปัญหาความล่าช้าลงได้ในบางภูมิภาค ซึ่งผู้ใช้ Kinsta สามารถคาดหวังความเร็วในการโหลดที่น่าประทับใจ ได้เลย

2. โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์เพื่อความเร็วแรงโดยเฉพาะ

มาเจาะลึกลงไปในโครงสร้างของ Kinsta กัน

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือ การให้บริการเว็บโฮสติ้งด้วย เซิร์ฟเวอร์ของ Google Cloud ซึ่งมีเฉพาะค่ายนี้เท่านั้น

สิ่งนี้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของค่ายนี้แตกต่างอย่างล้ำลึกจากคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่ให้บริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์หรือแบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวที่เราเห็นกันทั่วไป

แตกต่างขนาดไหนหรือ ก็แทนที่จะโฮสต์ผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียวในศูนย์ข้อมูล ผู้ให้บริการโฮสติ้งในระบบคลาวด์ใช้พื้นที่เซิร์ฟเวอร์เสมือน ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ซับซ้อนของเซิร์ฟเวอร์จริง สิ่งนี้เป็นประโยชน์ที่ค่อนเจ๋งมากสำหรับผู้ใช้ในแง่ของความเร็ว ความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการขยายตัวและความยืดหยุ่น

ในขณะที่มีผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์อยู่ไม่กี่แห่ง Kinsta โดดเด่นด้วยการใช้เครือข่ายไฟเบอร์ส่วนตัวของ Google ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเครือข่ายหนึ่งและสามารถเร็วได้ถึง 10,000TB ต่อวินาที ในบางภูมิภาค

สิ่งที่เจ๋งขึ้นไปอีกคือ Kinsta เซ็นสัญญาผูกกับแผนการใช้งานระดับพรีเมี่ยมของ Google Cloud ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้บริการ Kinsta ก็ได้รับประโยชน์ไปด้วยในแง่ของประสิทธิภาพ ความเร็วและความปลอดภัยซึ่งล้วนอยู่ในระดับสูงสุด

ผู้ใช้ Kinsta ยังได้รับประโยชน์จากเซิร์ฟเวอร์ Google Cloud ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ 20 แห่งทั่วโลก หมายความว่าคุณสามารถเลือกใช้ศูนย์ข้อมูลที่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุดเมื่อพิจารณาจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ สำหรับ เว็บไซต์ WordPress แต่ละเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้โหลดได้รวดเร็วทันใจ

นอกจากนี้ ผู้ใช้ Kinsta ยังสามารถเข้าถึง DNS ระดับพรีเมี่ยมผ่าน Amazon Route 53 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาวุธในคลังแสงเพื่อให้ทุกอย่างรวดเร็ว

3. Inclusive ซอฟต์แวร์ที่ช่วยติดปีกให้กับคุณ

ข้อดีข้อที่สามคืออะไร คุณเดาได้เลยใช่ไหมล่ะ แน่นอนยังหนีไม่พ้นเรื่องของความเร็ว

Kinsta ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแกร่งด้วย “สถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นความเร็ว” (นี่เป็นคำพูดของค่ายนี้เองซึ่งเรายกมาทั้งดุ้น) ผ่านเทคโนโลยีเช่น Nginx, PHP 7, คอนเทนเนอร์ซอฟต์แวร์ LXD และ MariaDB

เราสามารถพูดถึงส่วนเสริมและปลั๊กอินต่าง ๆ ของ Kinsta ที่มีอยู่มากมายได้เป็นหน้า ๆ เลยทีเดียว ได้แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องการใช้อย่างแน่นอนคือ CDN

ทั้งนี้ Kinsta ร่วมมือกับ KeyCDN ซึ่งเป็นเครือข่ายการจัดส่งเนื้อหาชั้นเยี่ยมที่ใช้งาน HTTP/2 และ IPv6

KeyCDN เป็นผู้ให้บริการ CDN ชั้นนำของยุโรปที่มีสำนักงานใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ KeyCDN เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมั่นคงมากในด้านการช่วยให้บริการ CDN ชั้นยอดสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ปัจจุบัน คาดว่าน่าจะ ให้บริการลูกค้า 40,000 รายและมีอัตราการเข้าชม 94%.

แม้ว่าผู้ใช้ Kinsta จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของ KeyCDN แต่ผู้ใช้จะได้รับแบนด์วิดธ์ CDN ฟรีจำนวนหนึ่งซึ่งเรียกว่า “Kinsta CDN” นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกของ KeyCDN ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ 34 แห่งทั่วโลกและช่วยให้การส่งภาพและวิดีโอรวดเร็วไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของโลก

ทำไมคุณต้องสนใจ

เนื่องจาก CDN สามารถ…

  • … ลดเวลาในการโหลดได้ถึง 50% ในบางกรณี
  • … ช่วยแบ่งเบาการเรียกข้อมูลจากโฮสต์ของคุณโดยตรงได้มากถึง 70%
  • … ป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์ของคุณทำงานหนักเกินไปจากปริมาณการเข้าชมเว็บที่พุ่งสูงขึ้น

นอกเหนือจากความร่วมมืออันทรงพลังนี้แล้ว Kinsta (ในรูปแบบของ Kinsta อย่างแท้จริง) ยังทำให้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ CDN ง่ายต่อการจัดการอีกด้วย

CDN และเทคโนโลยีการแคชชิ่งมักจะแยกจากกัน แต่ Kinsta จับมารวมเข้าด้วยกันอย่างสวยงามและทำให้ง่ายต่อการจัดการจากแดชบอร์ดของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถติดตามการใช้แบนด์วิดธ์ ไฟล์อันดับต้น ๆ ที่มีคนเรียกหากันมากและอื่น ๆ

4. Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%

ในความเป็นจริง Kinsta รับประกันช่วงเวลาให้บริการ 99.9% ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงระดับการให้บริการหรือ SLA.

การที่ค่ายนี้กล้ารับประกันขนาดนี้ก็เป็นผลมาจากการมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับคลาวด์โฮสติ้งระดับสุดยอดนั่นเอง โดยปกติแล้ว ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์มีความน่าเชื่อถือมากกว่าในเรื่องที่เว็บไซต์จะไม่ล่มและออนไลน์ได้ตลอดเวลา

หากคุณรู้สึกว่าแค่นี้ยังไม่พอ Kinsta ยังเสริมการทำงานด้วย ระบบการติดตามและตรวจสอบช่วงเวลาให้บริการอย่างต่อเนื่องทุกนาที หากทางบริษัทไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดใด ๆ ก็ตามภายใน 30 นาทีในกรณีที่เว็บล่ม บัญชีของคุณจะได้รับเครดิตเงินคืน การรับประกันนี้ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันตลอดทั้งปี

5. การใช้งานที่ (เกือบจะ) ไม่ต้องทำอะไรเองเลย

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า นี่เป็นบริการแบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคด้วยตัวเอง ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง WordPress แบบนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณในเชิงเทคนิค และให้คุณมีเวลามากขึ้นกับการผลักดันให้เว็บไซต์เติบโต

Kinsta มีฟีเจอร์มากมายที่ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิค

Kinsta Features

ฟีเจอร์การจัดการเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ ได้แก่ :

  1. การปรับความเร็ว ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพและการทำแคชชิ่ง
  2. แดชบอร์ด MyKinsta แผงควบคุมที่น่าใช้และแตกต่างจาก cPanel หรือ Plesk ที่โฮสต์อื่น ๆ ใช้กันทั่วไปโดยยังคงฟีเจอร์การใช้งานดั้งเดิมบางอย่างเอาไว้
  3. การจัดการกับการอัปเดท นี่เป็นสิ่งที่เหนือขึ้นมาอีกระดับจากการอัปเดตแบบบังคับ (โฮสต์จำนวนมากนิยมใช้วิธีนี้ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้) คุณเพียงแค่แจ้งให้ทีม Kinsta ทราบว่า คุณต้องการให้ทีมงานดูแลการอัปเดทหรือไม่
  4. สร้างเว็บจำลองในคลิกเดียว คุณสามารถทดสอบ WordPress เวอร์ชั่นใหม่ ปลั๊กอินและโค้ดใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ก่อนจะเปิดตัวใช้งานจริงในไม่กี่วินาที
  5. การเข้าถึงหลายผู้ใช้ สะดวกสำหรับธุรกิจ – คุณสามารถตั้งค่าบัญชีการเข้าถึงหลายบัญชีได้อย่างง่ายดายและควบคุมสิทธิ์ที่แตกต่างกันของผู้ใช้แต่ละคนได้
  6. เครื่องมือที่เป็นมิตรกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่การโคลนนิ่งเว็บไซต์ไปจนถึงการเข้าถึง SSH เพื่อใช้ WP-CLI เพื่อดำเนินการอัปเดทและฟังก์ชันอื่น ๆ
  7. การตรวจสอบประสิทธิภาพแอปพลิเคชัน เครื่องมือที่น่าสนใจนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเจ้าของเว็บไซต์ค้นหาและแก้ไขข้อจำกัดใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของพวกเขา – ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กอิน WordPress ที่สามารถปรับปรุงได้หรือการเรียกใช้ API ที่ยาวนาน
  8. Kinsta API นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อและติดต่อกับโครงการ Kinsta ของพวกเขานอกเหนือจากแดชบอร์ด MyKinsta ได้ พวกเขาสามารถเรียกดูข้อมูลการวิเคราะห์และอัตโนมัติง่าย ๆ เช่นเริ่ม PHP ใหม่ ล้างแคช ติดตั้งปลั๊กอินยอดนิยม การใช้งานเว็บไซต์ WordPress และอื่น ๆ อีกมากมาย

6. การสนับสนุนทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม

จุดแข็งที่สุดอย่างหนึ่งของ Kinsta คือทีมสนับสนุนด้านเทคนิค

เราไม่ได้พูดเล่นนะ ทีมช่วยเหลือดูแลลูกค้าประกอบไปด้วยนักพัฒนา WordPress ฝีมือดีและวิศวกรโฮสติ้ง Linux เก่ง ๆ ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าระดับการสนับสนุนทางเทคนิคของค่ายนี้อยู่ในระดับดีที่สุดรายหนึ่งในตลาด ค่ายนี้ยังป่าวประกาศด้วยว่า บริษัทรับคนผ่านการสมัครเข้ามาเองไม่ถึง 1% ของผู้สมัครทั้งหมด!!

แทนที่จะต้องผ่านพนักงานสนับสนุนไปตามขั้นตอนจากระดับ 1 ไประดับ 2 หรืออะไรทำนองนี้ ผู้ใช้ Kinsta สามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรงได้ทันทีเมื่อต้องการ

Kinsta ให้การช่วยเหลือดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านทาง อินเทอร์คอม วิดเจ็ต แชทสดและระบบบัตรคิว จริง ๆ แล้ว มันเป็นระบบที่ค่อนข้างเจ๋งเลยทีเดียวโดยมีการเก็บบันทึกประวัติการแชทเอาไว้อัตโนมัติและช่องหน้าต่างในการแชทก็จะยังคงเปิดอยู่แม้ในขณะที่คุณเลื่อนดูหน้าอื่น ๆ ในแดชบอร์ด

จากประสบการณ์ตรงของเรา ทุกคำถามที่เราส่งไปได้รับการตอบกลับภายใน 3 นาที พนักงานทุกคนที่เราพูดคุยด้วยให้ความช่วยเหลือดีมาก ความรู้แน่นและอ้างอิงทุกคำตอบด้วยการส่งลิงก์ข้อมูลมาให้เราได้อ่านเพิ่มเติม โดยรวมแล้วเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก และยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปอีกเมื่อได้อ่านความประทับใจของ บรรดาลูกค้าจากหน้ารีวิวที่ยาวเป็นหน้า ๆ ซึ่งทุกคนพูดถึงทีมสนับสนุนของ Kinsta ในลักษณะเดียวกันหมด

นอกจากนี้ เราชอบ บล็อกของ Kinsta ที่อัปเดตเป็นประจำ รวมถึง คลังความรู้ ที่มีประโยชน์ซึ่งเต็มไปด้วยเคล็ดลับ บทความและอภิธานศัพท์ทางเทคนิค

• ดูแลด้วยใจโดยแท้จริง

• ทดลองใช้ดูด้วยตัวเอง – รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

7. การติดตั้งและการย้ายเว็บไซต์ที่แสนง่าย

การติดตั้งเพื่อใช้งานทำได้ง่ายแค่ไหน

คำตอบคือ ง่ายมากจริง ๆ

เมื่อเราสมัครใช้บริการ Kinsta เราอึ้งไปเลยว่าทำไมใช้งานง่ายและรวดเร็วขนาดนี้ การสร้างบัญชีใช้งานกินเวลาไม่กี่วินาที จากนั้นก็เข้าสู่หน้าแดชบอร์ดใหม่ของเราซึ่งอัดแน่นด้วยทรัพยากรมากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วย ทุกคน ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงนักพัฒนาซอฟต์แวร์มือฉมัง

หลังจากนั้น เราก็ได้รับอีเมลตามมาเพื่อแจ้งถึงขั้นตอนต่อไปในการเชื่อมต่อเว็บไซต์ของเรา รวมถึงตรวจสอบว่าเรามีคำถามอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ

สิ่งที่โดนใจต่อมาคือ ทุกแพ็กเกจของ Kinsta อนุญาตให้ ย้ายเว็บไซต์ฟรีหนึ่งครั้ง เป็นอย่างน้อยจากโฮสต์ปัจจุบันโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของทางบริษัทจะช่วยจัดการให้ (โปรดทราบไว้ว่า การย้ายเว็บไซต์จะรวมอยู่ในแพ็กเกจ Standard ด้วยก็ต่อเมื่อคุณจ่ายค่าสมัครแบบรายปีเท่านั้น)

เห็นได้ชัดว่า การปล่อยให้มืออาชีพจัดการช่วยให้ปวดหัวน้อยกว่าการพยายามย้ายเว็บไซต์ด้วยตัวเอง (คุณจะเลือกทำเองก็ได้โดยมีทีมสนับสนุนของ Kinsta คอยช่วยเหลือ) เว็บไซต์ของคุณจะไม่หยุดชะงักหรือล่มระหว่าง การย้ายเลย เพียงแค่สั่งย้ายเว็บไซต์จากแดชบอร์ดของคุณ จากนั้นคุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อกระบวนการย้ายเสร็จสมบูรณ์เพื่อให้คุณได้ตรวจสอบดูว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นจริง ๆ

Kinsta Free Site Migration

แม้ว่าจะไม่มีการให้ทดลองใช้ฟรี แต่ Kinsta ก็ รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน (ซึ่งจริง ๆ แล้วเราชอบแบบนี้มากกว่า) เพื่อให้เวลาผู้ใช้ได้ลองสัมผัสกับการทำงานจริง ๆ ทั้งนี้ มีแพ็กเกจให้เลือกหลายระดับ (จะกล่าวเพิ่มเติมในภายหลัง) แต่เราชอบวิธีการแจกแจงรายละเอียดแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ทำได้อย่างชัดเจน

8. ใช้งานได้อย่างสบายใจ

Kinsta มีเครื่องมือมากมายเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัย

การสำรองข้อมูล

  • การสำรองข้อมูลรายวัน Kinsta ให้การสำรองข้อมูล WordPress อัตโนมัติทุกวันรวมทั้งการสำรองข้อมูลที่ระบบสร้างขึ้นสำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดในบัญชีของคุณ ฟังก์ชั่นเหล่านี้อยู่ตรงจุดสำรองข้อมูลบนแดชบอร์ด MyKinsta และจะเก็บไว้เป็นเวลา 14 วัน
  • การสำรองข้อมูลด้วยตนเอง คุณสามารถสำรองข้อมูลด้วยตนเองได้สูงสุด 5 รายการรวมถึงการสำรองข้อมูลที่ดาวน์โหลดได้หนึ่งรายการทุกสัปดาห์
  • การสำรองข้อมูลในบางกรณี เหตุการณ์บางอย่างส่งผลให้สร้างการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนจากเว็บไซต์จำลองมาเป็นเว็บไซต์จริง ระบบจะสร้างสำเนาของเว็บไซต์ที่ใช้งานจริงของคุณเอาไว้เผื่อกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด

สิ่งที่เจ๋งขึ้นไปอีกคือ การสำรองข้อมูลจะไม่เข้าไปรวมอยู่ในการใช้พื้นที่ดิสก์ทั้งหมดของคุณเพื่อให้คุณมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ !

ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

  • ใช้ SSL และไฟร์วอลล์ฮาร์ดแวร์ เปิดใช้งานใบรับรอง SSL ฟรีได้ภายในคลิกเดียว
  • การตรวจสอบตลอดเวลา ในกรณีที่เว็บไซต์ของคุณถูกแฮ็กหรือหยุดทำงาน เจ้าหน้าที่ของ Kinsta จะได้รับการแจ้งเตือนทันทีและพวกเขาจะรีบแก้ไขทันที
  • อัปเดตแพตช์ความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ แก้ไขให้ฟรีกรณีถูกแฮ็ค บล็อกการแทรกโค้ดและการโจมตีแบบ DDoS การสแกนมัลแวร์/สปายแวร์รายวัน
  • การตั้งค่า name server เรารู้สึกว่าสิ่งนี้น่าสนใจมาก ปกติโฮสต์ส่วนใหญ่ให้ชื่อ name server มา 2 ชุดเพื่อตั้งค่าการชี้ DNS อย่างไรก็ตาม Kinsta มีให้ 4 ชุดซึ่งแต่ละชุดมีส่วนท้ายเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน (เช่น .net, .org) ซึ่งช่วยให้แน่ใจว่าหากชุดใดชุดหนึ่งเกิดล่มและใช้งานไม่ได้ คุณยังมีชื่อชุดอื่น ๆ สำรองเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณยังใช้งานได้ต่อไป นี่เป็นเพียงตัวอย่างของเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า Kinsta ใส่ใจอย่างเต็มที่ในทุกรายละเอียด

9. รองรับการเข้าชมเว็บที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ใครบอกว่าการเติบโตของเว็บไซต์สร้างความยุ่งยากมากมาย ลองมาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างของ Kinsta กัน นั่นคือความสามารถในการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงจากสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์

ในกรณีที่เกิดมีคนเข้าชมเว็บเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่คาดคิด การเชื่อมต่อระหว่าง Kinsta กับ Google Compute Engine จะช่วยให้เว็บไซต์สามารถปรับขนาดได้อย่างมากพร้อมกับจำนวน CPU มากเท่าที่ต้องการ การที่ระบบคลาวด์ปรับขนาดได้อัตโนมัติเพื่อรองรับโหลดที่เปลี่ยนแปลงไป เว็บไซต์ WordPress ของคุณจึงสามารถออนไลน์ได้โดยไม่ล่มหรือหยุดทำงาน

ในทางตรงกันข้าม โฮสต์ของบุคคลที่สามจำนวนมากจำกัดไว้แค่ 2-6 ซีพียูต่อ 1 เซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนบุคคลหรือวีพีเอส

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าหากคุณมีจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เกินจำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือนตามที่ระบุไว้ในแพ็กเกจ คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับส่วนที่เกินขึ้นมา (31 บาท/1,000 ครั้งของการเข้าเยี่ยมชม)โดยคุณจะได้รับการแจ้งเตือนก่อนเมื่อมีคนเข้าชมเว็บในระดับ 80% และ 100% ของจำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน

แม้กระนั้น สิ่งสำคัญคือเว็บไซต์ของคุณจะออนไลน์อยู่เสมอ! เพราะถึงที่สุดแล้วคุณคงไม่อยากตกอยู่ในสภาพที่ ลงทุนไปมากมายเพื่อดึงคนเข้าชมเว็บเยอะ ๆ หรือได้กลายเป็นเว็บยอดฮิตที่คนส่งต่อกันไปทั่ว แต่กลับมาเจอปัญหาเว็บไซต์ล่มในช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของคุณ ลองนึกภาพของการสูญเสียโอกาสที่รอคอยมาอย่างยาวนานดูสิว่าแย่ขนาดไหน !

นอกจากนี้ Kinsta ยังให้บริการ อัปเกรดเพื่อรองรับการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรับมือกับเหตุการณ์การเข้าชมจำนวนมากในลักษณะนี้ หากคุณรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

10. เสริมประสิทธิภาพสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

บอกตามตรงเลยว่า Kinsta คือข่าวดีสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซบน WordPress

ถึงที่สุดแล้ว WordPress ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ประกอบการเนื่องจากมีปลั๊กอินฟรีอย่าง WooCommerce

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ประเภทอีคอมเมิร์ซเหล่านี้นั่นเองที่มีแนวโน้มที่จะใช้ทรัพยากรมากและล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลั๊กอินเหล่านี้มักจะเป็นสิ่งที่ประกอบกันเป็นด้านที่ซับซ้อนทางเทคโนโลยีที่สุดของ WordPress

เจ้าของธุรกิจที่ใช้ WordPress จะได้รับประโยชน์มากมายจากการสนับสนุนของ Kinsta และเครื่องมือบริหารจัดการที่ใช้งานง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งต่อไปนี้ :

  • การทำแคชชิ่งหน้าเพจในระดับเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฟังก์ชันการทำงานได้รับการเสริมประสิทธิภาพให้เหมาะกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หน้าบางหน้าที่ไม่ควรถูกแคช เช่น รถเข็น บัญชีของฉันและการชำระเงินจะไม่รวมอยู่ในการทำแคชชิ่ง
  • ในระยะยาวแล้ว Kinsta เป็นทางออกสำหรับ การเอาชนะอุปสรรคที่เพิ่มมากขึ้น หากจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เกินเพดานที่กำหนดไว้ในแพ็กเกจที่ใช้อยู่ คุณก็แค่อัปเกรดโดยจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจที่สูงขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องย้ายเว็บไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่นซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากที่คุณต้องเผชิญในกรณีที่ใช้เว็บโฮสติ้งแบบแชร์ นี่เป็นข้อดีอย่างมากสำหรับเว็บไซต์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มหน้าผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

โดยรวมแล้ว Kinsta สามารถเสนออะไรให้ได้ เยอะมาก สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเติบโตทางธุรกิจมากกว่าจะมาเสียเวลากับเรื่องทางเทคนิคว่าจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับ Kinsta

เห็นได้ชัดว่า Kinsta มีจุดเด่นที่ดึงดูดใจไม่น้อย แต่อย่าลืมว่าไม่มีเว็บโฮสติ้งใดที่สมบูรณ์แบบ

1. ราคาสูง

Kinsta เป็นโซลูชั่นโฮสติ้ง WordPress ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งราคาก็พรีเมี่ยมตามไปด้วย

ค่าใช้จ่ายรายเดือนค่อนข้างสูงโดยแพ็กเกจมาตรฐานสนนราคาที่ 930 บาทต่อเดือน ซึ่งราคาจะสูงถึง 27,900 บาทต่อเดือนสำหรับแพ็กเกจระดับสูงสุด (เดี๋ยวจะคุยเรื่องนี้กันอีกสักครู่)

คุณจะได้แถมฟรีอีก 2 เดือนหากคุณซื้อแพ็กเกจรายปี แต่ราคาเฉลี่ยต่อเดือนก็ยังสูงจนอาจจะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กยอมถอย ซึ่งราคาอยู่ในระดับที่สูงกว่าคู่แข่งหลักเกือบทุกราย

จะว่าไป ก็อดดีใจไม่ได้เหมือนกันที่เห็นราคาแพ็กเกจมาตรฐานลดลงจาก 3,100 บาท ซึ่งเป็นราคาค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ใช้มาจนถึงเดือนพฤษภาคม 2018

2. ไม่มีการโฮสต์อีเมล

มีอะไรบางอย่างที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องการเพื่อสร้างเว็บไซต์และบริหารจัดการเว็บไซต์ให้ได้ครบถ้วนกระบวนความ แต่ Kinsta ยังไม่มีให้บริการในขณะนี้

บริการสำคัญหรือเปล่า คำตอบคือโฮสติ้งอีเมลนั่นเอง ผู้ใช้บริการที่กำลังมองหาอีเมลส่วนตัวแบบที่ดูเป็นมืออาชีพตามแบบที่เห็นกันทั่วไปอย่าง [email protected] จะต้องไปค้นหาและสมัครใช้บริการโฮสติ้ง อีเมลแยกต่างหาก เราได้เขียนคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีเริ่มใช้บริการโฮสติ้งอีเมลพร้อมกับเปรียบเทียบผู้ให้บริการรายต่าง ๆ ที่นี่

ตัวอย่างเช่น บริการโฮสติ้งอีเมลระดับมืออาชีพ อย่าง Office 365 Biz จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 620 บาทต่อเดือน ขณะที่ Kinsta แนะนำ G Suite ซึ่งจะช่วยให้คุณจ่ายเหลือแค่ 155 บาทต่อเดือน

แน่นอน นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรและข้อโต้แย้งของ Kinsta ที่ว่าทางบริษัทต้องการให้เรื่องนี้อยู่ในความดูแลของผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญด้านโฮสติ้งอีเมล ซึ่งก็เป็นคำโต้แย้งที่ฟังขึ้นอยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเจ้าของเว็บไซต์บางรายที่ผิดหวังเพราะคาดหวังว่าจะได้บริการโฮสติ้งแบบครบวงจรจาก การยอมควักระเป๋าจ่ายในราคาที่สูง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าของเว็บก็ต้อง เตรียมตัวเตรียมใจที่จะลงทุนครั้งใหญ่ กับการสรรค์สร้างเว็บให้มีคุณสมบัติน่าดึงดูด

3. ขาดการสนับสนุนทางโทรศัพท์

ทุกวันนี้ Kinsta ไม่ได้ให้การสนับสนุนทางโทรศัพท์ แก่ลูกค้าซึ่งต่างจากคู่แข่งส่วนใหญ่

คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกสบายใจกว่าหากได้โทรศัพท์ไปพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาได้ทันที

จากมุมมองของ Kinsta การตัดสินใจเช่นนี้ก็ฟังดูมีเหตุผลเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ทางบริษัทเขียนเอาไว้ใน บทความที่เขียนขึ้นมาเพื่ออธิบายเหตุผลเรื่องนี้โดยเฉพาะ .

จริงอยู่เมื่อเป็นการพูดคุยทางเทคนิค การเขียนอธิบายพร้อมภาพหน้าจอประกอบคำอธิบายมีประโยชน์เพราะช่วยบอกได้ว่ากำลังพูดถึงอะไร…

จริงอยู่การตอบคำถามทางอีเมลหมายความว่าคุณจะไม่ต้องอธิบายเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้งกับคนหลาย ๆ คน…

ในขณะที่การแชทสดอาจเป็นทางเลือกที่สะดวก แต่การสนับสนุนทางโทรศัพท์อาจจะช่วยสร้างความสบายใจ ให้กับลูกค้าได้มากโดยเฉพาะในช่วงวิกฤต

หลาย ๆ คนรู้สึกดีกว่ามากที่จะได้โทรศัพท์ไปและมีพนักงานรับสายทันที แทนที่จะต้องพิมพ์อธิบายปัญหาลงในกล่องแชทซึ่งเป็นช่องเล็ก ๆ

แพ็กเกจ Kinsta WordPress

ปัจจุบัน Kinsta มีแพ็กเกจต่าง ๆ อยู่ 10 ระดับโดยแต่ละระดับให้บริการในระดับที่แตกต่างกัน

แพ็กเกจจำนวนมากให้บริการพื้นฐานสำคัญ ๆ แบบเดียวกัน เช่น SSL และ CDN ฟรี ทีมสนับสนุนทางเทคนิคการสำรองข้อมูลรายวันและอื่น ๆ ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแพ็กเกจระดับต่าง ๆ คือ จำนวนการติดตั้ง WordPress ที่สามารถรับการจัดการทางเทคนิคให้ได้ต่อบัญชีและจำนวน PHP เวิร์คเคอร์ ที่กำหนดให้กับเว็บไซต์ (PHP เวิร์คเคอร์คือตัวกำหนดว่า เว็บไซต์จะรองรับจำนวนคำขอที่เข้ามาพร้อมกัน ณ เวลาใดเวลาหนึ่งได้มากน้อยแค่ไหน โดยแต่ละตัวจะรองรับคำขอแต่ละคำขอที่ไม่ได้ผ่านการทำแคชชิ่ง)

แพ็กเกจต่าง ๆ เริ่มต้นจากระดับ Starter ไป Business และไปจนถึง Enterprise ซึ่งกลุ่มหลังนี้มีเป้าหมายที่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างชัดเจน

แต่ละแพ็กเกจอธิบายไว้อย่างชัดเจนมากซึ่งคุณสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับคุณได้อย่างง่ายดาย และทุกแพ็กเกจสามารถลองใช้งานได้ฟรี 30 วันโดยในระหว่างช่วงเวลานี้คุณสามารถเลือกอัปเกรดหรือดาวน์เกรดแพ็กเกจของคุณได้

StarterEnterprise 2
จำนวน WordPress ที่ติดตั้งได้
1
80
จำนวนการเข้าชมเว็บต่อเดือน
20,000
1,500,000
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD
10 GB
120 GB
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล CDN
500 GB
1000 GB
การเก็บข้อมูลสำรอง
14 วัน
30 วัน
PHP เวิร์คเคอร์ต่อเว็บไซต์
2
10
ราคา/เดือน
930 บาท
27,900 บาท
เรียนรู้เพิ่มเติม
Kinsta Plan

• ราคาเริ่มต้นที่ 930 บาทต่อเดือน

• ราคารวม SSL ฟรี CDN ฟรีและการย้ายเว็บไซต์ฟรี

Kinsta รับมือกับการแข่งขันได้อย่างไร

ในขั้นต่อไปเรามาดูกันว่า Kinsta สามารถต่อสู้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างไร

เราได้ตัดสินใจเปรียบเทียบในด้านที่เป็นจุดเด่นของทั้งสองค่ายที่นำมาเปรียบเทียบกันดังต่อไปนี้

1. Kinsta เทียบกับ WP Engine

Kinsta จะเป็นยังไงเมื่อเทียบกับ WP Engine ในฐานะโฮสต์ WordPress แบบที่คุณไม่ต้องจัดการด้านเทคนิคด้วยตัวเอง มาดูกันทีละด้าน

ด้านการย้ายเว็บไซต์

WP Engine ยอมให้ย้ายเว็บ WordPress ฟรีแบบไม่อั้น ในทางตรงกันข้าม Kinsta จำกัดจำนวนการย้ายเว็บฟรีตามแพ็กเกจของผู้ใช้ โดยแพ็กเกจพื้นฐานที่สุดให้ย้ายเว็บไซต์ฟรีได้หนึ่งครั้ง ซึ่งการย้ายเว็บมากกว่านี้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 3,100 บาทต่อเว็บไซต์

อย่างไรก็ตาม หากมองเข้าไปให้ใกล้อีกนิด จะเห็นว่าลักษณะของการย้ายเว็บไซต์ของสองค่ายนี้ค่อนข้างแตกต่างกัน การย้ายเว็บของ WP Engine จะใช้ปลั๊กอิน Automated Migration ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าปลั๊กอินนี้จะเปิดใช้งานอย่างรวดเร็วและค่อนข้างง่าย แต่อาจทำให้ผู้ใช้บางคนสับสนและทำอะไรไม่ถูก ทั้งนี้ ปลั๊กอินจะไม่ทำการย้ายการเปลี่ยนเส้นทางหรือรีไดเร็ก (สำคัญอย่างยิ่งในการป้องกัน “หายนะ” ด้าน SEO ) หรือข้อมูลหรือรูปภาพที่จัดเก็บนอกไดเร็กทอรีของเนื้อหาเวิร์ดเพรส ซึ่ง Kinsta แย้งว่าหากทำการย้ายผิดพลาดล่ะก็ ข้อมูลอาจจะหายหมด

ในทางกลับกัน การย้ายเว็บของ Kinsta เป็นเรื่องที่ง่ายและแทบไม่ต้องใช้สมองเลย เพียงแค่คุณส่งคำขอย้ายเว็บและปล่อยให้ทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยจัดการให้ ทุกอย่างก็เรียบร้อยอย่างง่ายดาย วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่เว็บไซต์จะล่มหรือหยุดทำงานระหว่างการย้ายได้อีกด้วย

ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีจัดการทางเทคนิคแบบที่ “ไม่ต้องทำเอง” วิธีการย้ายเว็บของ Kinsta ดูเหมือนจะสบายกว่าเยอะ

การช่วยเหลือดูแลลูกค้า

WP Engine ภูมิใจกับงานสนับสนุนลูกค้าซึ่งเยี่ยมระดับได้รับรางวัล โดยทางค่ายใช้ เวลาตอบสนองโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 3 นาทีซึ่ง 90% ของผู้ติดต่อฝ่ายสนับสนุน ได้รับการแก้ไขปัญหาทันทีเมื่อได้รับการติดต่อกลับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน

WP Engine ยังภูมิใจนำเสนอการสนับสนุนทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันซึ่ง Kinsta ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มี เหตุผลอาจจะเป็นเพราะจำนวนพนักงานของค่ายนี้มากกว่าทีมที่ค่อนข้างเล็กของ Kinsta

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้อาจจะแย้งได้ว่าจุดแข็งของ Kinsta อยู่ที่ระดับทักษะความสามารถของพนักงานฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้า ซึ่ง Kinsta เองระบุว่า “ลูกค้าของ Kinsta จะได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันกับที่สนับสนุนองค์กรขนาดใหญ่และบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500” ด้วยความที่ Kinsta มีพนักงานคุณภาพคับแก้วอยู่ในมือ บางคนจึงแนะนำว่า Kinsta สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีกว่า

ความสามารถในการขยายตัว

Kinsta มีแพ็กเกจต่าง ๆ ถึง 10 ระดับ (เทียบกับแพ็กเกจ 5 ระดับของ WP Engine) แต่ผู้ใช้ Kinsta ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ปรับขนาดได้อัตโนมัติเหมือนกัน

นี่หมายความว่าผู้ใช้ Kinsta ที่ต้องการอัปเกรดเว็บไซต์ขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น (เช่นเพื่อรองรับการเข้าชมที่สูงขึ้น) จะพบว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างราบรื่น

ส่วน WP Engine ใช้โฮสติ้งแบบแชร์หรือแบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว การปรับขนาดเว็บไซต์ที่โฮสต์กับ WP Engine ให้ใหญ่ขึ้นอาจจะต้องมีการโยกย้ายเว็บไซต์หลายครั้ง เช่น อาจจะย้ายจากสภาพแวดล้อมแบบแชร์ไปยังสภาพแวดล้อมแบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนบุคคลหรือ VPS จากนั้นก็อาจจะต้องย้ายไปใช้โฮสติ้งแบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวหรือต่อไปยังโฮสติ้งระบบคลาวด์ อย่างที่เราเคยพูดไปแล้วว่า การย้ายเว็บไซต์หลายครั้งแบบนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้บางรายอดกังวลใจไม่ได้

เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

Kinsta เป็นเว็บโฮสติ้งที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบโจทย์นักพัฒนาซอฟต์แวร์

ด้วยเหตุนี้ Kinsta จึงมีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยเสริมความคล่องตัวในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งใช่จะหาได้ครบทุกตัวใน WP Engine:

  • การเข้าถึง SSH, Git และ WP-CLI ในทุกแพ็กเกจตั้งแต่ Starter ไปจนถึง Enterprise
  • ความสามารถในการเรียกใช้ PHP เวอร์ชั่นต่าง ๆ สำหรับเว็บไซต์จริงและเว็บไซต์จำลองทุกเว็บไซต์
  • ความสามารถในการคืนค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติไปยังเว็บไซต์จริงและเว็บไซต์จำลอง

อย่างไรก็ตาม WP Engine เสนอธีม WordPress ที่น่าสนใจมากให้กับลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ซึ่งรวมถึง Genesis Framework ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กธีม WordPress ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และธีมพรีเมี่ยมของ StudioPress ซึ่ง Kinsta ไม่มีธีมฟรีให้กับลูกค้า

2. Kinsta เทียบกับ SiteGround

Kinsta เปรียบเทียบกับ SiteGround ในฐานะเว็บโฮสติ้งที่เร็วแรง

กลับไปข้อถกเถียงเรื่องความเร็วกันอีกครั้ง

อย่างที่เราได้พูดไปแล้วว่า ตอนที่เราทำการทดสอบความเร็ว Kinsta ไม่ได้เป็นโฮสต์ที่เร็วที่สุด ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบความเร็วกับ SiteGround ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุด:

KinstaSiteGround
ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์
ลอนดอน
ลอนดอน
US (W)
130 ms
138 ms
US (E)
95 ms
86 ms
ลอนดอน
10 ms
4 ms
สิงคโปร์
287 ms
179 ms
เซาเปาลู
203 ms
212 ms
บังคาลอร์
487 ms
292 ms
ซิดนีย์
266 ms
250 ms
ญี่ปุ่น
221 ms
223 ms
แคนาดา
83 ms
87 ms
เยอรมนี
13 ms
16 ms
ค่าเฉลี่ยทั่วโลก
179.5 ms
148.7 ms
ผลทดสอบฉบับเต็ม

เห็นกันแล้วว่า SiteGround ได้รับคะแนน A+ และมีประสิทธิภาพดีกว่า Kinsta ด้วยระยะเวลาตอบสนองเฉลี่ย 148.7 มิลลิวินาที

ผลการเปรียบเทียบนี้อาจจะสร้างความประหลาดใจให้กับคนที่เปรียบเทียบสองค่ายนี้ด้วยระดับราคา

ด้วยราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ที่ 217 บาทต่อเดือนสำหรับผู้สมัครใช้งานครั้งแรก SiteGround ถือว่าราคาที่ถูกกว่า Kinsta เยอะมาก แพ็กเกจที่สูงขึ้นไปอีกระดับของ SiteGround อนุญาตให้คุณโฮสต์เว็บไซต์ WordPress ได้ ไม่อั้น แถมยังจ่ายเพียง 310 บาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม การทดสอบความเร็วที่ว่ายังไม่ได้คำนึงถึงฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Kinsta มีไว้ให้สำหรับเพิ่มความเร็วในการโหลด เมื่อเปรียบเทียบแพ็กเกจพื้นฐานของทั้งสองค่าย เราสังเกตเห็นว่ามีฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับความเร็วสองสามอย่างที่ Kinsta มี แต่ SiteGround ไม่มี เช่น

  • ค้นหาได้เร็วขึ้นด้วยโปรแกรมเสริม Elasticsearch (SiteGround มีให้เฉพาะแพ็กเกจระดับ Enterprise)
  • ประสิทธิภาพฐานข้อมูลที่เร็วขึ้นด้วยโปรแกรมเสริม Redis (SiteGround มีให้เฉพาะแพ็กเกจระดับ Enterprise)
  • Kinsta มาพร้อมแพ็กเกจ CDN ระดับพรีเมี่ยมมากกว่าผ่านการร่วมมือกับ KeyCDN ในขณะที่ SiteGround ให้การเชื่อมต่อกับ CloudFlare

นอกจากนี้ Kinsta ยังให้ผู้ใช้เลือกศูนย์ข้อมูล 20 แห่งเทียบกับศูนย์ 5 แห่งของ SiteGround ใน 3 ทวีป

แน่นอน สองค่ายนี้สูสีกันจนตัดสินใจยาก แต่ถึงที่สุดแล้วเราต้องจำไว้ว่า การเปรียบเทียบ SiteGround กับ Kinsta ไม่ใช่การเปรียบเทียบแบบตรงไปตรงมาเสียทีเดียว

Kinsta เป็น โฮสต์ระบบคลาวด์ที่ปรับขนาดได้เอง ในขณะที่ SiteGround ยังคงเป็นโฮสต์แบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่นแพ็กเกจ “Grow Big” ของ SiteGround เป็นบริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ซึ่งมีเว็บไซต์สองสามเว็บไซต์ใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ร่วมกัน โครงสร้างพื้นฐานประเภทนี้มาพร้อมกับข้อจำกัดภายในตัวมันเอง

แม้กระนั้นก็ตาม SiteGround เป็นการนำเสนอคุณค่าที่ยอดเยี่ยมมากให้กับลูกค้าแม้กระทั่งแพ็กเกจโฮสติ้งแบบแชร์ จากรีวิวเชิงลึกของเราที่นี่ เราขอแนะนำ SiteGround ไม่เพียงแต่ในเรื่องของความเร็วแต่ยังมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม ความปลอดภัย และบัญชีอีเมลและฐานข้อมูลที่ไม่จำกัดอีกด้วย

SiteGround น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดมากกว่า หรือคนที่มีอัตราการเข้าชมเว็บต่ำ แต่ยังคงต้องการประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

บทสรุป: คุณควรโฮสต์กับ Kinsta หรือไม่

ตอนนี้คำถามหลักคือ คุณควรโฮสต์กับ Kinsta หรือไม่

ปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจควรจะอยู่ที่ความต้องการของคุณในฐานะผู้ใช้

ส่วนสำคัญที่สุดคือ Kinsta มีราคาที่ไม่ถูก แต่ คุ้มค่าสุด ๆ สำหรับผู้ใช้ที่มองหาคุณภาพระดับนี้

สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่มีการเข้าชมต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องการมองหาการลงทะเบียนโดเมนแบบรวมทุกอย่างและการโฮสต์อีเมล โฮสติ้ง WordPress ระดับพรีเมี่ยมของ Kinsta อาจจะมีทั้งด้านที่มากเกินไปและน้อยเกินไป

ค่ายนี้น่าจะเหมาะกว่าสำหรับผู้ใช้ที่คาดว่าจะมีการเข้าชมเว็บในปริมาณสูงมากและจริงจังกับการปรับขยายขนาด รวมถึงการรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์

ด้วยสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์ ความหลงใหลในความเร็ว เครื่องมือและระบบการจัดการขั้นสูง การสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง Kinsta จึงเป็นโฮสต์ที่ทรงพลังมากจนไม่ควรมองข้าม

  • ความเร็วที่ยอดเยี่ยม
  • ทีมสนับสนุนที่มีทักษะสูง
  • Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
  • แผงควบคุม MyKinsta ที่ทันสมัย
  • ศูนย์ Google Cloud 20 แห่งทั่วโลก
  • KeyCDN และแคชชิ่ง
  • ติดตามตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
  • Managed WordPress
  • ผู้ต้องการใช้ WooCommerce
  • เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  • เว็บไซต์ขนาดกลาง – ใหญ่
  • เว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะมีการเข้าชมสูงขึ้น
  • นักพัฒนาเว็บ

• ราคารวม SSL ฟรี CDN ฟรีและการย้ายเว็บไซต์ฟรี

• รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

(กลับไปด้านบน)

Kinsta

rated 5 out of 5rated 5 out of 5rated 5 out of 5rated 5 out of 5rated 5 out of 5

ราคาเริ่มต้นที่

930 บาท*

รายเดือน